การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยของอาจารย์พยาบาลเพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาของสถาบันการศึกษาพยาบาล = The development program to enhance research competency for nursing instructors to improve the quality of education of nursing educational institution / อรุณี เฮงยศมาก
Material type:![Text](/opac-tmpl/lib/famfamfam/BK.png)
- วพ WY20.5
Item type | Current library | Shelving location | Call number | Copy number | Status | Date due | Barcode | Item holds | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
![]() |
Kuakarun Nursing Library | Processing unit | วพ WY20.5 อ419ก 2562 (Browse shelf(Opens below)) | Available | A0000000616 | ||||
![]() |
Kuakarun Nursing Library | Processing unit | วพ WY20.5 อ419ก 2562 (Browse shelf(Opens below)) | ฉ.2 | Available | A0000000617 |
ปริญญานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีการศึกษา 2562
บทนำ -- เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง -- วิธีดำเนินการวิจัย -- ผลการวิเคราะห์ข้อมูล -- สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและสร้าง รวมทั้งประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยของอาจารย์พยาบาลเพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาของสถาบันการศึกษาพยาบาล การวิจัยนี้แบ่งเป็น 2 ระยะ ในการวิจัยระยะที่ 1 ออกแบบและสร้างโปรแกรม ประกอบด้วย 1) การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพกับผู้ให้ข้อมูลหลักซึ่งเป็นอาจารย์พยาบาลผู้มีประสบการณ์ด้านการวิจัยสูง 9 คน ด้วยแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และใช้วิธีการเนื้อหา 2) การประเมินความต้องการจำเป็นในการส่งเสมสมรรถนะการทำวิจัย เก็บข้อมูลกับอาจารย์พยาบาลน่งทางวิซาการ 50 คน ด้วยแบบประเมินความต้องการจำเป็น และวิเคราะห์หาค่าดัชนีความต้องการจำเป็นออกแบบและสร้างร่างโปรแกรม โดยใช้ช้อมูลที่ได้จาก ข้อ1 และ 2 ร่วมกับแนวคิดการจัดการความรู้ (KM) การเรียนรู้แบบเกลียวความรู้ (SECI model) และการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) และในการวิจัยระยะที่ 2 ประเมินประสิทธิผลของโปรแกรม กลุ่มตัวอย่างเป็นอาจารย์พยาบาล 14 คน คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ โปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัย และแบบประเมินสมรรถะการทำวิจัย ซึ่งประกอบด้วย 1) แบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับการทำวิจัย 2) แบบวัดทัศนคติต่อการทำวิจัย 3) แบบวัดทักษะการทำวิจัย และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้สถิติทดสอบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 1 กลุ่ม ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวทางสู่ความสำเร็จในการส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัย ได้แก่ การมีที่ปรึกษาเพี่เลี้ยง การบริหารเวลา การพัฒนาความรู้และทักษะการทำวิจัย และการสร้างเครื่อข่ายการวิจัย ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการทำวิจัย ได้แก่ ภาระงานมากเหนื่อยล้า การขาดแรงจูงใจ การขออนุมัติจริยธรรมในมนุษย์ใช้เวลานาน การขาดการสนับสนุนในด้านบริหารจัดการภายในหน่วยงาน บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย และการขาดทักษะในการสืบค้นข้อมูล 2) ความต้องการจำเป็นในการส่งเสริมสมรรถนะการทำวิจัยในด้านการสร้างเครื่องมีอวิจัยมีความต้องการจำเป็นการในส่งเสริมมากที่สุด และ 3) ภายหลังการเข้าร่วมโปรแกรม อาจารย์พยาบาลมีคะแนนเฉลี่ยสมรรถนะการทำวิจัยโดยรวมและรายด้านทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับการทำวิจัย ทัศนคติต่อการทำวิจัย และทักษะการทำวิจัยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (=21.88) ผลการศึกษาครั้งนี้จึงเป็นแนวทางในการพัฒนาอาจารย์พยาบาลให้มีศักยภาพในการทำวิจัยเพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษา ของสถาบันการศึกษาพยาบาล
There are no comments on this title.